ลักษณะงานที่ปฏิบัติ : เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นต้นปฏิบัติงานที่ค่อนข้างยากเกี่ยวกับงานโภชนาการตามที่ได้รับมอบหมายเช่น ให้คำแนะนำในการประกอบอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของผู้บริโภค สาธิตการประกอบอาหาร การถนอมอาหาร กำหนดรายการอาหารและควบคุมดูแลการบริการอาหารแก่ผู้บริโภคจำนวนมาก ควบคุมการประกอบอาหารแก่ผู้ป่วยประเภทต่างๆตามคำสั่งแพทย์ควบคุมการปฏิบัติงานภายในโรงอาหาร ศึกษา ค้นคว้า และให้คำแนะนำเบื้องต้นในการประกอบอาหารตำหรับใหม่ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพของผู้บริโภคและปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ
- ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง
- ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
- ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งให้พักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น
- ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
- ไม่เป็นกรรมการพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
- ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
- ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น
- ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น
- ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ
ผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (7) (9) (10) หรือ (14) จะมีสิทธิสมัครสอบต่อเมื่อได้รับการยกเว้นจาก ก.พ. แล้ว ส่วนผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (11) หรือ (12) ถ้าผู้นั้นได้ออกจากงานหรือออกจากราชการ ไปเกิน 2 ปีแล้ว หรือผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (13) ถ้าผู้นั้นได้ออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกิน 3 ปีแล้ว และมิใช่เป็นกรณีออกจากงาน หรือออกจากราชการเพราะกระทำผิดในกรณีทุจริตต่อหน้าที่ จะมีสิทธิสมัครสอบ ต่อเมื่อได้รับการยกเว้นจาก ก.พ. แล้ว สำหรับผู้ที่ขาดคุณสมบัติตาม (4) มีสิทธิสมัครสอบแข่งขันได้ แต่จะมีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้ เมื่อพ้นจากตำแหน่งข้าราชการการเมืองแล้ว
ผู้สมัครสอบต้องไม่เป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในกฎ ก.พ.
- โรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
- วัณโรคในระยะอันตราย
- โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
- โรคติดยาเสพติดให้โทษ
- โรคพิษสุราเรื้อรัง
ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งโภชนากร 2
ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงทางสังคมศาสตร์ ด้านคหกรรมศาสตร์ เน้นทางอาหารและโภชนาการ (สำหรับพระภิกษุหรือสามเณรทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 5 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538)
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ภาค ดังนี้
ก. ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) ทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป ดังต่อไปนี้โดยวิธีสอบข้อเขียน
1.วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
- ความสามารถในการคิดเลข สรุปเหตุผลเกี่ยวกับตัวเลข และข้อมูลต่างๆ
- ความสามารถทางภาษา ทดสอบความสามารถในการคิด สรุปหาเหตุผล ซึ่งเนื้อหาจะประกอบด้วย การอ่านจัดใจความของบทความทางสังคมศาสตร์ อุปมาอุปไมย การสรุป เหตุผล และหาความสัมพันธ์ของคำ ข้อความ และหรือรูปภาพ
2.วิชาภาษาไทย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
- ความเข้าใจภาษา การอ่านและการทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความที่กำหนดให้แล้ว ตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความหรือข้อความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปความและตีความด้วย
- การใช้ภาษา
- การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ
- การเขียนประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษา
- การเรียงข้อความ
ข.ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง(ภาค ข.) (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) ทดสอบความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง โดยวิธีสอบข้อเขียน ดังนี้
วิชาที่ 1 ความรู้ด้านโภชนบริการ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) ทดสอบความรู้ในเรื่องการประกอบอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ โดยกำหนดรายการอาหาร การสั่งซื้อ จัดเตรียม การประกอบ การเก็บรักษาแก่ผู้บริโภคจำนวนมาก ตลอดจนแนวความคิดด้านโภชนาการในยุคปัจจุบัน
วิชาที่ 2 ความรู้ด้านโภชนศึกษา (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) การทดสอบความรู้ความสามารถในการดูแลสุขภาพ การกินอาหารสมุนไพร กินอาหารตามวัย การบริหารจัดการเมื่อผู้ป่วยเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาล การจัดอาหารแก่ผู้ป่วยโรคต่างๆ ประเภทของอาหารชนิดต่างๆ การให้โภชน ศึกษาแก่ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป
ค.ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) จะประเมินผู้เข้าสอบเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน พฤติกรรมที่ปรากฏทางอื่นของผู้เข้าสอบ และจากการสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ความรู้ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือน คุณธรรม จริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น
เกณฑ์การตัดสิน : ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้สอบแข่งขันได้ จะต้องเป็นผู้ที่สอบได้คะแนนในแต่ละภาคตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ : การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะเรียงลำดับที่จากผู้สอบได้คะแนนรวมสูงลงมาตามลำดับ กรณีที่มีผู้สอบได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้สอบได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) มากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) เท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งเท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนภาษาไทยในภาคความรู้ความสามารถทั่วไปมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้ายังคงได้คะแนนเท่ากันอีกให้ผู้ได้รับเลขประจำตัวสอบก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า
การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีไว้ไม่เกิน 2 ปี นับตั้งแต่วันขึ้นบัญชี แต่ถ้ามีการสอบแข่งขันอย่างเดียวกันนี้อีก และได้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ใหม่แล้ว บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครั้งนี้เป็นอันยกเลิก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น